การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก่อนรับพนักงานเข้าทำงานนั้นไม่ได้เป็นเรื่องใหม่อะไร แต่ถึงกระนั้นหลาย ๆ ครั้งพนักงานเองก็มีข้อสงสัยว่าทำไมบริษัทต้องทำ เพราะขั้นตอนการตรวจนั้นก็ต้องเสียเวลาอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ฝ่ายบุคคลหลาย ๆ ที่เลยมีการละเลยในเรื่องของการตรวจประวัติอาชญากรรมเพราะคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่สุดท้ายเมื่อเจอกับปัญหาที่เกิดจากตัวบุคคลนั้นก็ได้แต่นึกเสียดายว่าหากมีการตรวจสอบให้ดีเสียก่อน ก็คงไม่ต้องเสียเวลาในการจัดการเรื่องราว ๆ ต่าง ๆ ที่กินเวลานานกว่าเสียอีก
อย่างไรก็ดีการที่ HR เริ่มมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมแบบจริงจังก็จะช่วยทำให้พนักงานในองค์กรมั่นใจได้ว่าบุคคลที่จะเข้ามาร่วมงานกับเรานั้นมีความประพฤติที่ดี และจะไม่ทำให้องค์กรเสียหายในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งการตรวจสอบแม้ทางพนักงานที่เข้าใหม่จะต้องเสียเวลาไปบ้าง แต่ผลลัพธ์นั้นคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
ประโยชน์ของการตรวจสอบประวัติอาชญกรรมก่อนเริ่มงาน
1.ช่วยทำให้ทุกคนมั่นใจในความปลอดภัย
เมื่อมีคนใหม่ที่ไม่ได้รู้จักหน้าค่าตากันมาก่อน เป็นเรื่องปกติที่เราอาจจะไม่แน่ใจในบุคคลนั้น การที่มีการตรวจประวัติอาชญกรรมก่อนเริ่มงานก็เป็นเหมือนการกรองก่อนอีกชั้นว่าคนที่จะเข้ามาเริ่มงานใหม่นั้น ไม่ได้มีคดีติดตัวอยู่ หรือมีคดีที่กำลังดำเนินการอยู่ ทำให้เห็นถึง background ว่าบุคคลที่เข้ามาใหม่นั้นจะไม่เป็นอันตรายต่อเพื่อนร่วมงาน ไม่มีประวัติการใช้ความรุนแรง ลักขโมย เพราะคงไม่ดีแน่หากคนที่เรากำลังจะรับเข้ามาเป็นพนักงานใหม่นั้นเคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อน หากเราไม่รู้และเค้าได้เข้ามาก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อคนในองค์กรคนอื่น ๆ ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแม้ว่าบุคคลอาจจะมีประวัติไม่ดีมา HR ก็อาจจะต้องใช้วิจารณญาณในการ
2.สำหรับตำแหน่งเฉพาะทางยิ่งช่วยเพิ่มความไว้ใจ
หลายตำแหน่งเองด้วยตัวเนื้องานมีการต้องยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทองบริษัท หรือในบางตำแหน่งต้องสร้างความไว้ใจกับคู่ค้า คงไม่ดีแน่หากบุคคลที่เรารับเข้ามาเคยมีประวัติการลักขโมย หรือใช้ความรุนแรง เพราะด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังที่กล่าวมาก็อาจทำให้พนักงานคนนั้น ๆ ก่อปัญหาเรื่องเดิมซ้ำอีกจนสุดท้ายพลอยทำให้บริษัทเราต้องเสียชื่อเสียงไปด้วย ดังนั้นแล้วการเลือกพนักงานที่ไม่มีประวัติอาชญกรรมนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดียิ่งกว่า
3.ช่วยทำให้งาน HR มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดังที่เราได้เกริ่นมาในตอนแรกว่าในหลาย ๆ องค์กรตอนนี้ละเลยเรื่องการตรวจประวัติอาชญกรรมพนักงาน จนสุดท้ายพนักงานก่อเรื่องอะไรสักอย่างเราจึงได้รู้ว่า สิ่งที่พนักงานทำนั้นไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก ฝ่ายบุคคลแทนที่จะมีเวลาไปโฟกัสที่งานอื่น ๆ ก็ต้องแบ่งเวลาเพื่อไปจัดการพนักงานคนนั้น ๆ เรื่องคดีความ และนี่ยังไม่นับเรื่องการติดตามผลซึ่งขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของคดีอีก จะเห็นได้เลยว่าการเสียเวลากับเรื่องการตรวจประวัติแค่เพียงนิดเดียว จะช่วยประหยัดเวลาในเรื่องพวกนี้ได้เยอะมาก ๆ เลยทีเดียว
คดีแบบไหนที่ไม่ควรผ่อนปรนรับเข้าทำงาน
1.ลักทรัพย์บริษัท หรือทุจริตในที่ทำงาน ถือเป็นปัญหาใหญ่เลยเพราะการลักทรัพย์ หรือกระทำการทุจริตนั้น บ่งบอกพื้นเพของผู้ที่กระทำ และหากการกระทำผิดนั้นทำได้เกิดผลกระทบกับคู่ค้า นอกจากจะเสียเรื่องของเงินแล้วยังทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงอีกด้วย ยิ่งถ้าหากเป็นตำแหน่งที่ต้องเกี่ยวข้องกับการเงินยิ่งต้องหลีกให้ห่างคนประเภทนี้เลยทีเดียว
2.ขายข้อมูลลูกค้า เมื่อไม่นานมานี้ก็มีข่าวที่มีพนักงานได้ขโมยข้อมูลลูกค้าไปขาย การทำเช่นนี้มีผลเสียร้ายแรงต่อบริษัทมาก ยิ่งในยุคที่ลูกค้าให้ความสำคัญในเรื่องของ PDPA หรือความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
3.ทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาศในที่ทำงาน การทำร้ายร่างกายกันโดยพื้นฐานแล้วก็เป็นสิ่งต้องไม่เกิดขึ้นในที่ทำงาน และมักจะไม่ได้พบเห็นกันได้บ่อย ๆ หากพนักงานที่เรากำลังจะรับเข้าทำงานมีปัญหาในเรื่องความรุนแรงในฐานะ HR ก็ควรจะหลีกเลี่ยงการรับคนประเภทนี้เข้าทำงาน เพราะนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับพนักงานที่โดนกระทำด้วยแล้ว ยังทำให้บรรยากาศในบริษัทเป็นไปในแง่ลบ และนอกจากนั้นยังส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของบริษัทเป็นวงกว้างหากพนักงานไปหัวร้อนกับลูกค้า
4.เมาแล้วขับ คนที่เมาแล้วขับนั้นโดยมากมักจะขาดจิตสำนึกต่อสังคม ฝ่ายบบุคคลจึงต้องระมัดระวังบุคคลประเภทนี้เพราะในการทำงานคนประเภทนี้อาจจะมองถึงตัวเองเป็นหลัก และไม่นึกถึงผลเสียที่จะเกิดตามมา ในกรณีที่เมาแล้วขับในขณะที่เป็นพนักงานเรานั้น ก็จะทำให้เกิดชื่อเสียงแย่ ๆ กับบริษัทได้โดยง่าย แม้ว่าจะเป็นนอกเวลางาน แต่พนักงานก็อาจจะยังใส่ชุดฟอร์มบริษัทอยู่ดี
5.ล่วงละเมิดทางเพศ องค์กรที่ดีนั้นควรเป็น safe zone ให้กับพนักงานทุกคน การล่วงละเมิศทางเพศนั้นถือเป็นการคุกคามที่ทำให้บริษัทกลายเป็นที่ที่ไม่ปลอดภัย ความสัมพันธ์ของคนในบริษัทก็จะเป็นไปในทิศทางที่แย่ลง ซึ่งโดยมากการล่วงละเมิดทางเพศนั้นบริษัทอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควรแต่ในต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก ๆ เลยทีเดียว นั่นหมายความว่าหากพนักงานคนนั้นมีคดีเช่นนี้ติดตัวในไทยแสดงถึงความน่ากลัวสุด ๆ
จะเห็นได้ว่าการตรวจประวัติอาชญากรรมก่อนเข้าทำงานนั้น แม้ว่าจะมีความยุ่งยากวุ่นวาย แต่ผลลัพธ์ที่จะได้กลับมาสำหรับฝ่ายบุคคลและองค์กรนั้นเรียกว่ายิ่งกว่าคุ้ม ยิ่งตอนนี้เทคโนโลยีก็ทำให้การตรวจสอบทำได้ง่าย ๆ สำหรับผู้ใช้งาน empeo เราก็มีฟีเจอร์ใช้ในการตรวจสอบประวัติพนักงานด้วยเช่นเดียวกัน
ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ HR และการพัฒนาองค์กรได้ที่
Blog: www.empeo.com/blog
Facebook: www.facebook.com/myempeo
Youtube: www.youtube.com/empeo