จากกรณีที่บอร์ดประกันสังคม ได้มีการเคาะรับหลักการปรับสูตรปรับสูตรบำนาญชราภาพของประกันสังคม ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 เป็นแบบ Care เพื่อทดแทนแบบเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.540 จนทำให้เกิดความสงสัยว่า ประกันสังคมแบบนี้ จะสร้างผลกระทบอย่างไร และผู้ประกันตนต้องเสียเงินเพิ่มหรือไม่ วันนี้ เราจะมาหาคำตอบกัน
บำนาญชราภาพประกันสังคมแบบ Care คืออะไร
บำนาญชราภาพแบบ Care หรือ Career Average Revalued Earnings เป็นระบบการคำนวณเงินบำนาญชราภาพ จากรายได้เฉลี่ยตลอดระยะเวลาการทำงานทั้งหมด คิดค่าจ้างทุกเดือนที่ส่งสมทบ และคิดค่าจ้าง Index ในอดีตให้เป็นปัจจุบันก่อนนำมาคำนวณ ซึ่งจะมาทดแทนการคำนวณเงินบำนาญชราภาพแบบเดิมที่เรียกว่า Final Average Earnings (FAE) ที่ใช้การคำนวณเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย และไม่มีการคิดเศษเดือน
ทั้งนี้ ระบบบำนาญชราภาพประกันสังคมแบบ Care จะเป็นประโยชน์ผต่อผู้ประกันตนมากขึ้น และมีความเป็นธรรมมากกว่าเดิม มีความยั่งยืน ลดภาระกองทุนประกันสังคมในระยะยาว โดยกระจายการคำนวณเงินให้สมดุล ไม่เน้นเงินในช่วงสุดท้าย อีกทั้งยังครอบคลุมคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ประกันตนที่เคยเป็นผู้ประกันตนที่อยู่ในมาตรา 33 และเมื่อออกจากงานแล้วมาอยู่มาตรา 39 ก็จะได้รับเงินบำนาญที่ได้ค่าตอบแทนดีขึ้นกว่าเดิม จ่ายมากได้มาก จ่ายน้อยได้น้อยลงตามสัดส่วน
ก่อนหน้านี้ ประกันสังคมได้มีมติปรับเพดานค่าจ้าง จากปี 15,000 บาทเป็น 17,500 บาท ในปี 2569 หากมีการปรับเพดานค่าจ้าง จะช่วยให้คนได้รับประโยชน์มากขึ้น แต่ไม่มีผลผูกกัน
เงื่อนไขการรับเงินบำนาญประกันสังคม
สำหรับผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบประกันสังคมตามมาตรา 33 (พนักงานบริษัท) และมาตรา 39 (ภาคสมัครใจ หรือผู้ที่อยู่มาตรา 33 เดิมแต่ลาออก) มีสิทธิ์รับเงินบำนาญประกันสังคม โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- มีอายุ 55 ปีบริบูรณ์
- สิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน
- ส่งเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน (15 ปี) จะได้รับเงินบำนาญชราภาพ จ่ายเป็นรายเดือนตลอดชีวิต
- หากส่งเงินสมทบน้อยกว่า 180 เดือน (15 ปี) จะได้รับเงินบำเหน็จ จ่ายเป็นก้อนแค่ครั้งเดียว
ความแตกต่างของบำนาญประกันสังคมแบบเดิม Vs. บำนาญประกันสังคมแบบ Care
การคำนวณ
ในสูตรเดิมนั้น จะทำบนความเชื่อที่ว่า ยิ่งคนแก่ตัวไป ยิ่งได้เงินเพิ่มมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วช่วง 60 เดือนสุดท้ายของการทำงาน กลับเป็นช่วงที่เงินเดือนคนทำงานผันผวนมากที่สุด และหากคำนวณแบบเดิม จะกลายเป็นว่าผู้ประกันตนเสียเปรียบ ไม่นำเงินในส่วนที่ส่งเยอะมากคิด แต่คิดแค่ส่วนที่ส่งน้อยแทน
ทั้งนี้ ในการคำนวณบำนาญชราภาพด้วยจะเป็นการคำนวณจากฐานเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย หากเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จะมีฐานเงินเดือนสูงสุดที่ 15,000 บาท และมาตรา 39 จะมีฐานเงินเดือนสูงสุดที่ 4,800 บาท หาก 60 เดือนสุดท้าย ผู้ประกันตนอยู่ใน ม.33 มาตลอด จะใช้ฐานของ ม.33, หาก 60 เดือนสุดท้าย ผู้ประกันตนอยู่ใน ม.39 มาตลอด จะใช้ฐานของ ม.39 และหาก 60 เดือนสุดท้าย ผู้ประกันตนอยู่ใน ม.33 และ ม.39 ทางประกันสังคมจะเฉลี่ยให้
ในส่วนการคำนวณแบบใหม่นั้น จะไม่สนใจว่า 60 เดือนสุดท้าย ผู้ประกันตนเป็นผู้ประกันตนตามมาตราอะไร แต่จะปรับค่าเงินในอดีตให้เป็นปัจจุบันก่อน แล้วจึงใช้การคำนวณเงินในทุกเดือนที่ส่งเงินสมทบตลอดชีวิตการทำงาน จะไม่ทำให้มีเงินตกน้ำ
การปัดเศษ
ในสูตรเดิมนั้น หากผู้ประกันตนทำงานไม่ครบปี จะมีการปัดเศษเดือนทิ้ง แต่ในสูตร Care นั้น จะไม่มีการปัดเศษเดือนทิ้ง นับทุกเดือนที่ทำงาน
บำนาญประกันสังคมแบบ Care มีใครบ้างที่กระทบ
คาดว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้น คือผู้ที่รับบำนาญอยู่แล้ว 800,000 คน ซึ่งหากมีการประกาศใช้แล้ว จะไม่มีใครได้เงินบำนาญลดลง หากการคำนวณตามสูตรเดิมได้เงินมากกว่า จะใช้การคำนวณตามสูตรเดิมจนถึงปี 2573 โดยมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 5 ปี โดยผู้ที่ได้รับผลประทบมากที่สุดคือ
- ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เคยส่งในฐาน 15,000 บาท และเปลี่ยนไปเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ส่งเงินที่ฐาน 4,800 บาทในช่วง 6 ปีสุดท้าย บำนาญจะเพิ่มขึ้นมาจาก 1,750 บาท เป็น 4,789 บาท หรือกว่า 173%
- ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เคยส่งเงินไม่นาน ต่อมาส่งเงินมาตรา 39 นาน ก็จะได้เงินเพิ่มแต่ไม่เท่ากรณีแรก
- ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ส่งในฐาน 15,000 บาทมาตลอด ในปี 2569 จะมีการขยับเพดานฐานเพิ่มขึ้นเป็น 17,500 บาท บำนาญจะขยับเพิ่มขึ้นจาก 5,700 บาทเป็น 6,039 บาท แต่หากเกษียณหลังปรับเพดานค่าจ้างเกิน 60 เดือน สูตรใหม่จะได้น้อยกว่าสูตรเก่า เพราะสูตรเก่าไม่นำช่วงเพดาน 15,000 บาทมาคิด
- กลุ่มที่ค่าจ้างต่ำกว่า 15,000 บาท จะได้รับเงินบำนาญใกล้เคียงสูตรเดิม
- ผู้ที่ค่าจ้างต่ำมาตลอด แต่ในช่วง 5 ปีสุดท้าย ไปเร่งส่งที่ฐาน 15,000 บาทของผู้ประกันตนมาตรา 33 บำนาญอาจจะลดลง
- สำหรับผู้ที่รับบำนาญประกันสังคมอยู่แล้ว หากการคิดบำนาญแบบสูตรใหม่ได้เงินมากกว่า ก็จะใช้ตามสูตรใหม่ แต่จะไม่มีการให้เงินชดเชยย้อนหลังส่วนต่าง
บำนาญประกันสังคม แบบ Care จะต้องจ่ายเงินเพิ่มหรือไม่
บำนาญประกันสังคมแบบ Care ไม่ต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มแต่อย่างใด ทว่าในปี 2569 บอร์ดประกันสังคมได้มีการเคาะเพิ่มฐานของผู้ประกันตนมาตรา 33 จาก 15,000 เป็น 17,500 บาท และเงินบำนาญในส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นด้วย
บำนาญ ประกันสังคมแบบ Care จะเริ่มใช้เมื่อใด
แม้ว่าบอร์ดประกันสังคมจะมีการเคาะรับหลักการแล้ว แต่ก็ยังต้องผ่านขั้นตอนอีกหลายขั้นตอน ทั้งการทำ Case Study วิเคราะห์ผลกระทบใน 90 วัน จากนั้นจะมีการทำประชาพิจารณ์ ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแสดงความคิดเห็นใน 30 วัน จากนั้นจะมีการร่างและพิจารณาตามกฎกระทรวง ก่อนที่จะประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคร่าว ๆ คาดว่า จะมีการใช้ในปี 2569
สูตรบำนาญประกันสังคมแบบเดิม คิดอย่างไร
ปกติแล้ว การคำนวณเงินบำนาณประกันสังคมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
- กรณีที่จ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน หรือ 15 ปี : ส่วนนี้จะเรียกว่าเงินบำนาญพื้นฐาน โดยเป็นการนำเงินเดือนโดยเฉลี่ย x 20%
- กรณีที่จ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน หรือ 15 ปี : ส่วนนี้จะเรียกว่าเงินบำนาญเพิ่มเติม โดยทุก ๆ ปีที่ส่งจะคูณ 1.5% ให้ แต่หากปีไหนส่งไม่ครบ 12 เดือน เศษเดือนจะมีการปัดทิ้ง มีสูตรคือ 1.5 x ปีที่เกินจาก 15 ปีแรก x เงินเดือนเฉลี่ย
ตัวอย่างการคำนวณบำนาญประกันสังคม สูตรเดิม
นายกอไก่ เป็นพนักงานบริษัทมาทั้งหมด 20 ปี เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในช่วง 1-10 ปีแรก นายกอไก่มีฐานเงินเดือน 15,000 บาท ในช่วงปีที่ 11-20 นายกอไก่ มีฐานเงินเดือน 20,000 บาท ต่อมานายกอไก่ลาออกจากงาน แต่ส่งประกันสังคม ม.39 ต่ออีก 2 ปี 9 เดือน เงินที่นายกอไก่จะได้รับคือ
- คำนวณหาค่าจ้างเฉลี่ย = [(4,800x33) + (15,000x27)] / 60
= (158,400+405,000)/60
= 9,390 บาท
ค่าจ้างเฉลี่ยของนายกอไก่ตลอด 60 เดือนคือ 9,390 บาท - คำนวณหาเงินบำนาญพื้นฐานในส่วน 15 ปีแรก = 9,390 x 20% = 1,878 บาท
- คำนวณหาเงินบำนาญเพิ่มเติมในส่วนเกิน 15 ปีแรก = ในกรณีนี้ นายกอไก่ส่งเกิน 15 ปีมาทั้งหมด 7 ปี 9 เดือน แต่ไม่นำเศษเดือนมาคิด ดังนั้นจึงคิดแค่ 7 ปี
= 1.5% x 7 (ปี) x 9,390 (เงินเดือนเฉลี่ย) = 985.95 บาท
สรุป นายกอไก่จะได้รับบำนาญ 1,878+985.95 = 2,863.95 บาท
สูตรคำนวณบำนาญชราภาพประกันสังคมแบบ Care คิดอย่างไร
ในการคำนวณบำนาญชราภาพประกันสังคมแบบใหม่ จะเป็นการเฉลี่ยตลอดชีวิตการทำงาน และไม่มีการปัดเศษเดือน โดยมีวิธีการคำนวณดังนี้ จากโจทย์เดียวกัน
ตัวอย่างการคำนวณบำนาญประกันสังคม สูตร Care
นายกอไก่ เป็นพนักงานบริษัทมาทั้งหมด 20 ปี เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในช่วง 1-10 ปีแรก นายกอไก่มีฐานเงินเดือน 15,000 บาท ในช่วงปีที่ 11-20 นายกอไก่ มีฐานเงินเดือน 20,000 บาท ต่อมานายกอไก่ลาออกจากงาน แต่ส่งประกันสังคม ม.39 ต่ออีก 2 ปี 9 เดือน เงินที่นายกอไก่จะได้รับคือ
- คำนวณหาค่าจ้างเฉลี่ย = (15,000 x 120) + (20,000x120)+ (4,800x33) / 273
= (1,800,000 + 2,400,000 + 158,400) / 273
= 15,964.83 บาท
เงินเดือนเฉลี่ย = 15,964.83 บาท - คำนวณหาเงินบำนาญพื้นฐานในส่วน 15 ปีแรก = 20%x15,964.83 = 3,192.96 บาท
- 3.คำนวณหาเงินบำนาญพื้นฐานในส่วนเกิน 15 ปี = ในกรณีนี้ นายกอไก่ส่งเกิน 15 ปีมาทั้งหมด 7 ปี 9 เดือน ซึ่งมีการนำเศษเดือนมาคิดด้วย
= 1.5% x 7.9 x 15,964.83 = 1,891.83
สรุปตามแบบ Care นายกอไก่จะได้เงินบำนาญประกันสังคมเดือนละ 3,192.96 + 1,891.83 = 5,084.79 บาท
จะเห็นได้ว่า จากทั้ง 2 ตัวอย่าง จากที่สูตรเดิมนายกอไก่จะได้รับเงินบำนาญประกันสังคมเพียง 2,863.95 บาท จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 5,084.79 หรือเพิ่มกว่า 2,220.84 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว
ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ HR และการพัฒนาองค์กรได้ที่
Blog: www.empeo.com/blog
Facebook: www.facebook.com/myempeo
Youtube: www.youtube.com/empeo