เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจว่าจะให้พนักงาน work from home ต่อไปดีไหมนั้น ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือคำถามที่ว่าแล้ว wfh มันดีต่อบริษัทจริงๆรึเปล่า และปัจจัยหลักๆก็คงเป็นประเภทของงานว่าสามารถทำงานจากที่บ้านได้หรือไม่ หากตัวธุรกิจคุณเองจำเป็นต้องพบเจอกับลูกค้าแน่นอนว่าการทำงานจากบ้านคงไม่ใช่คำตอบนัก แต่หากว่าเป็นงานที่จัดการได้จากที่ไหนแล้วล่ะก็ คุณคงคิดไม่ตกเลยทีเดียวจริงไหมครับ
ประโยชน์ของการทำงานแบบ work from home
และแม้ว่าการทำงานจากบ้านอาจจะดูเป็นเรื่องที่ใช้ได้กับองค์กรใหญ่อย่างเดียว แต่อันที่จริงแล้วองค์กรเล็กก็สามารถหาประโยชน์ได้เช่นกัน
- หาคนเก่งได้ง่ายขึ้น - ด้วยเงื่อนไขการทำงานที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม นั่นหมายความว่าคุณจะไม่ถูกจำกัดจากสถานที่อีกต่อไป แม้ว่าออฟฟิศคุณจะอยู่ในที่ห่างไกล เดินทางลำบาก แต่ตอนนี้คุณก็สามารถจ้างคนเก่งๆได้แล้ว
- ประหยัดมากขึ้น - สำหรับข้อนี้คงเป็นผลพลอยได้จากค่าใช้จ่ายรายวันที่ต้องจ่ายสำหรับค่าน้ำไฟต่างๆ ค่าแอร์ แต่ถ้ามองให้ลึกกว่านั้นคุณยังจะประหยัดจากอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆอีกด้วย
- ลดอัตรา turn over - เชื่อหรือไม่ว่าการทำงานจากที่บ้าน ช่วยลดความเครียดของพนักงานคุณได้ เพราะพวกเขาจะรู้สึกว่ามีชีวิตมี work life balance มากขึ้น และนั่นส่งผลให้พนักงานของคุณลาออกน้อยลง
ความท้าทายของการทำงานจากที่บ้าน
เมื่อมีด้านบวก ก็ย่อมต้องมีด้านลบเป็นธรรมดา เราก็ได้รวบรวมผลลบบางประการที่อาจจะเกิดขึ้นหากมีการให้ทำงานจากที่บ้าน จะมีอะไรบ้างลองดูกันเลยดีกว่า
- ปัญหาด้านการไว้ใจ – หากคุณไม่เชื่อใจในทีมงานมากพอแล้วล่ะก็ คุณคงต้องรู้สึกกังวลแน่ๆว่าระหว่างอยู่ที่บ้านเขาทำงานจริงๆหรือไม่ บางทีระหว่างที่คุณทำงานอยู่อาจจะเป็นเวลาดูซีรีย์เรื่องโปรดของพนักงานคุณแทนก็เป็นได้
- ติดต่อสื่อสารลำบาก – เรารู้กันดีว่าการติดต่อสื่อสารที่ดีที่สุดคือการติดต่อสื่อสารกันต่อหน้า ซึ่งการส่งข้อความไม่อาจจะทำให้เรารู้อารมณ์ของผู้พูดได้ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการสื่อสารผ่านทาง video call แต่บางครั้งหากสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่เสถียรก็คงทำให้คุณหงุดหงิดได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
- ความรู้สึกแปลกแยก - โดยปกติเมื่อเรามาทำงานร่วมกันในที่เดียวกัน เราจะรู้สึกถูกหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกัน ได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ทำให้การทำงานราบรื่นขึ้น แต่เมื่อทุกคนทำงานที่บ้านกันหมดผลที่เกิดขึ้นก็คือเราจะรู้จักกันแค่ในเรื่องงานเท่านั้น ทำให้วัฒนธรรมองค์กรต่างๆก็เกิดได้ยากตามไปด้วย
แล้ว work from home แบบไหนถึงจะดีกับทุกฝ่าย
1.กำหนดวัน wfh ดูสิ วิธีที่ง่ายและใช้ได้ผลดีคือการกำหนดวันทำงานจากที่บ้าน โดยอาจให้ทีมงานเลือกที่จะทำงานจากที่ไหนก็ได้ 1-2 วันต่ออาทิตย์ เพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นว่าสุดท้ายแล้วงานสามารถเดินหน้าได้เป็นอย่างดีหรือไม่
2.อย่าลืมคุยกับทีมงานบ่อยๆ ก่อนที่จะเริ่มใช้นโยบายทำงานจากบ้าน ติดตั้งโปรแกรมในการติดต่อสื่อสารกัน และพยายามสื่อสารกับทีมงานอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อที่ว่าทุกคนจะได้รู้สึกถึงความเป็นทีมอยู่นั่นเอง
3.ชวนคนที่ทำงานที่บ้านเข้าออฟฟิศบ้าง ง่ายแต่ได้ผลจริง หากบริษัทคุณมีคนที่ work from home อยู่ตลอดแล้วล่ะก็ในบางโอกาสอาจลองชวนเขาเข้าออฟฟิศเพื่อพบปะพูดคุยกับบ้าง คนในทีมจะได้ไม่รู้สึกห่างเหินกันจนเกินไป และถ้าบริษัทของคุณทุกคนทำงานที่บ้านกันหมดแล้วล่ะก็ ลองหาโอกาสพิเศษๆจัดงานพบปะกันสักครั้งก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยทีเดียว
4.บอกให้รู้ถึงความคาดหวัง เชื่อหรือไม่ว่าพนักงานที่ต้องทำงานจากที่บ้านส่วนใหญ่ไม่รู้ถึงความคาดหวังที่หัวหน้างานต้องการจากพวกเขา ดังนั้นแล้วคุณจงอย่าทำผิดพลาด บอกให้พวกเขารู้ถึงเป้าหมายในการทำงานแต่ละวัน คุณต้องการงานชิ้นใดบ้าง อะไรคือผลลัพธ์ที่คุณต้องการจากพวกเขาในช่วงเวลานั้นๆ
สรุปส่งท้าย
หากคุณอ่านบทความนี้จนจบแล้ว empeo เชื่อว่าคุณคงจะพอชั่งใจได้แล้วล่ะว่าจะให้พนักงานทำงานที่บ้านดีหรือไม่ หากคุณยังไม่เคยลองใช้วิธีที่เรากล่าวมาข้างต้น ก็อย่าลืมที่จะเอามาประยุกต์ใช้กับการบริหารคนในช่วงนี้ดูนะครับ รับประกันว่าคุณและทีมงานจะแฮปปี้ขึ้นอย่างแน่นอน
ติดตามเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ HR และการพัฒนาองค์กรได้ที่
Blog: www.myempeo.com/blog
Facebook: www.facebook.com/myempeo
Youtube: www.youtube.com/empeo